การพัฒนาบุคลากรด้วยแนวคิด ความสุข และความพึงพอใจในการทำงานโดยการศึกษาปัจจัยและกิจกรรมที่มีผลต่อ ความพึงพอใจในงาน ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุข จังหวัดพะเยา (The development of health workers by creating happiness, satisfaction and requis
ปัจจัยและกิจกรรม กระบวนการ ที่มีผลต่อพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตบุคลากรสาธารณสุข ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยาที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิต ที่มีผลการบริหารและพัฒนาบุคลากร ของบุคลากรสาธารณสุขในจังหวัดพะเยาจากการสำรวจความพึงพอใจในงานให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนบุคคลกร สาธารณสุข ในจังหวัดพะเยา ในใน5 ปีที่ผ่านมา ปี พ.ศ.2555 พบว่า มีความพึงพอใจในงานและ ความสุขร้อยละ 78 , 78.89 ,77.85 และ80.02ตามลำดับ และผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านความพึงพอใจ ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ปี 2555พบว่าระดับความพึงพอใจต่อความสำเร็จการบริหารงานบุคลากรสาธารณสุข ร้อยละ 68.55 มีความสุขในงานและคุณภาพชีวิต ร้อยละ 73.18 เพื่อการบริหารและพัฒนาบุคลากรโดยจัดให้มีแนวทางในการวางแผนการจัดกิจกรรม ต่างๆให้เหมาะสมสอดคล้องกับความพึงพอใจ ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ทั้งนี้ผลที่ได้จากการศึกษาจะนำไปปรับปรุง พัฒนากิจกรรม แผนงาน/โครงการ พัฒนาศักยภาพ สมรรถนะ กิจกรรมพัฒนาด้านสุขภาวะแนวพุทธ และสถานที่ทำงานที่มีความสุข ( Happy workplace )ส่วนตัวแปรตาม คือ กิจกรรม กระบวนการใดบ้างที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
วิธีการศึกษา ศึกษาโดยใช้ รูปแบบกึ่งทดลอง ( Quasi Experiment )โดยการสำรวจความคิดเห็นจากเครื่องมือที่สร้างขึ้นเป็น แบบสอบถาม ลิเคริ์ทสเกล (Likert’s Scale)ที่พัฒนาประยุกต์ จากแนวคิดความพึงพอใจ และสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ จากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และ การจัดกิจกรรม กระบวนการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ตามแผนงานโครงการและกิจกรรมต่างที่จัดให้กับบุคลากร โดยวัดผลจากความคิดเห็นจากการตอบแบบสอบถามก่อนและหลังและเชิงคุณภาพจากการวิเคราะห์เนื้อหาจากความคิดเห็นซึ่งนำผลการศึกษามาพัฒนาบุคลากรในองค์กรโดยได้รูปแบบกิจกรรม กระบวนการ ที่เหมาะสมมาใช้ใน การพัฒนาและการวางแผน ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยาอย่างต่อเนื่องต่อไป
พัฒนาโครงร่างวิจัย
1. ชื่อโครงการ (ภาษาไทย - ภาษาอังกฤษ)
2. ภูมิหลังและที่มาของโครงการ (Background and Rational)
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการบริหารองค์การภาครัฐในปัจจุบัน เพราะมนุษย์จัดได้ว่า เป็นทรัพยากรทางการบริหารที่สำคัญ และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรตลอดจนการจัดกระบวนการนั้นมีบทบาทในการทำให้บุคคลากรทำงานในหน้าที่ของตนและการดำเนินงานในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ดังคำว่า “ คนสำราญ งานสำเร็จ”(ว.วชิรเมธี ภิกขุ) และนำไปสู่ผลลัพธ์การพัฒนาองค์กร เนื่องจากผลกระทบจาก สถานการณ์ ทางด้านนโยบายการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมีการเปลี่ยนแปลง หน่วยงานจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถบริหารจัดการและพัมนาบุคลากรให้เกิดสัมฤทธิ์ผลและเป็นประโยชน์ในองค์กรมากที่สุดในขณะเดียวกัน บุคคลผู้ทำงานให้กับองค์กรเมื่อมี ความพึงพอใจในการทำงานและมีความสุข คุณภาพชีวิตที่ดีนั้น จะเกิดความจงรักภักดีต่อองค์กรและเต็มใจในปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล( จอร์จ และเลโอนาร์ค .2555 หน้า 557-578 ) จากการสำรวจความพึงพอใจในงานให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนบุคคลกร สาธารณสุข ในจังหวัดพะเยา ใน5 ปีที่ผ่านมา ปี พ.ศ. 2552-2555 พบว่า มีความพึงพอใจในงานและ ความสุขร้อยละ 78 , 78.89 ,77.85 และ80.02ตามลำดับ และผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านความพึงพอใจ ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ปี 2555พบว่าระดับความพึงพอใจต่อความสำเร็จการบริหารงานบุคลากรสาธารณสุข ร้อยละ 68.55 มีความสุขในงานและคุณภาพชีวิต ร้อยละ 73.18 เพื่อการบริหารและพัฒนาบุคลากรโดยจัดให้มีแนวทางในการวางแผนการจัดกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสม สอดคล้องกับความพึงพอใจในการทำงาน ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ทั้งนี้ผลที่ได้จากการศึกษาจะนำไปปรับปรุง พัฒนากิจกรรม แผนงาน/โครงการ พัฒนาศักยภาพ สมรรถนะ ของบุคลากรสำนักงานสาธารณสุขพะเยา ต่อไป
3. วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย (Objective)
3.1 วัตถุประสงค์หลัก (Primay Objective)
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1.กิจกรรม กระบวนการใดบ้างที่มีผลต่อความพีงพอใจในการทำงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
2.เพื่อศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคในการบริหารและพัฒนาบุคลากรสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
3.2 วัตถุประสงค์รอง (Secondary Objective)
รูปแบบกิจกรรม กระบวนการ ที่เหมาะสมมาใช้ใน การพัฒนาและการวางแผน ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
4. วิธีการดำเนินโครงการ (Materials and Methods)
4.1 การออกแบบการวิจัย (Study Design)
นำแนวทางการสำรวจข้อมูลสร้างเครื่องมือ แบบสำรวจด้านต่างๆดังนี้
1. สถานที่ทำงานที่มีความสุข
( happy work place)
-การทำงานเป็นทีม (team work)
-การสร้างองค์กรที่มีความสุข ที่สร้างสรรค์ที่นำไปสู่ความก้าวหน้า (creativity) ได้แก่
1.Happy body
2.Happy heart
3.Happy
4.Happy brain
6.Happy money
7.Happy family
8.Happy society
2. ตัวแปรด้านปัจจัยจูงใจ
- ลำดับความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ (Maslow) ด้านร่างกาย ความมั่นคงปลอดภัย สังคม เกียรติยศการยอมรับ ความสำเร็จแห่งตน
3. ปัจจัยด้านสุขภาวะแนวพุทธ
- ความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
- พฤติกรรมและความสัมพันธ์กับผู้อื่น สังคม
- การพัฒนาตนเองด้านคุณธรรมจริยธรรม
- การพัฒนาปัญญาและความสุขในชีวิต
สรุปผลจาก
-ปัจจัยและกิจกรรมกระบวนการที่มีผลต่อการพัฒนาบุคลากร
-จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคในการบริหารและพัฒนา
-ระดับความพึงพอใจในการทำงาน
รักในงาน ซื่อสัตย์ สามัคคี เสียสละและระเบียบวินัยต่อตนเองและหน่วยงาน
-ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุข
4.2 ประชากรที่ศึกษา (Study Population)
บุคลากรสาธารณสุขในสังกัดสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดพะเยาประกอบด้วยผู้บริหาร และ ผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการด้านเทคนิคอื่นๆ และผู้สนับสนุนในสายงานบริหาร
4.3 แหล่งที่มาของประชากร (Source of Study Population)
บุคลากรสาธารณสุขในสังกัดสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดพะเยา
4.4 การได้มาซึ่งประชากรที่ศึกษา (Method of Recruitment of Study Population)
การเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยการสุ่มแบบเจาะจงในกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข และเลือกสุ่มตัวอย่างแบบ Randomization แบบตัวเลขสุ่มอย่างง่าย จับฉลากจาก บุคคลกรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
4.5 เกณฑ์การคัดเลือกประชากรที่ศึกษา (Selection Criteria)
4.5.1 เกณฑ์การคัดเลือกผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัคร (Inclusion Criteria)
ผู้สมัครใจตอบแบบสอบถามและเข้าร่วมโครงการ
4.5.2 เกณฑ์ไม่รับเข้าในการศึกษา (Exclusion Criteria)
ผู้ไม่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ
4.5.3 เกณฑ์การถอนผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครหรือยุติการเข้าร่วมการวิจัย (Withdrawal or Termination Criteria)
ผู้ไม่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ
4.6 วิธีการแบ่งกลุ่มประชากรที่ศึกษา (Allocation of Study Population)
4.7 จำนวนประชากรที่ต้องการจะศึกษา (Sample Size) และการคำนวณขนาดตัวอย่าง (Sample Size Calculation)
บุคลากรสาธารณสุขทุกคนในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
4.8 ขั้นตอนการศึกษา (Study Procedures)
วิธีการศึกษา
ศึกษาโดยใช้ รูปแบบวิจัยพัฒนา ( Action Development Reserch )โดยการสำรวจความคิดเห็นจากเครื่องมือที่สร้างขึ้นเป็น แบบสอบถาม ลิเคริ์ทสเกล (Likert’s Scale)ที่พัฒนาประยุกต์ จากแนวคิดความพึงพอใจ และสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ จากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และ ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ และสถานที่ทำงานน่าอยู่และมีความสุข โดยมี การจัดกิจกรรม ตามกระบวนการพัฒนาบุคคลากร ตามแผนงานโครงการและกิจกรรมต่างที่จัดให้กับบุคลากรสาธารณสุขในจังหวัดพะเยา โดยวัดผลจากความคิดเห็นจากการตอบแบบสอบถามและนำผลมาจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการพื้นฐานที่จำเป็นในการพัฒนาบุคคลากรและองค์
4.9 การวัดผล/การวิเคราะห์ผลการวิจัย (Outcome Measurement/Data Analysis) (กระบวนการวัดผล/ วิเคราะห์ผล รวมถึงสถิติที่ใช้)
การวิเคราะห์ข้อมูล
1.วิเคราะห์แบบสอบถามเชิงปริมาณ โดยวิเคราะห์โดยให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาและทดสอบความเชื่อมั่นของเครื่องมือแบบสอบถาม ( Reliability @ Validity ) ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย จากคะแนน 5 ระดับคือการแปรผลระดับคะแนน 0.01 – 1.00 = น้อยที่สุด / 1.01 – 2.00 = น้อย / 2.01 – 3.00 = ปานกลาง 3.01 – 4.00 = มาก / 4.01 – 5.00 = มากที่สุด และเชิงคุณภาพจากการวิเคราะห์เนื้อหาจากข้อความแปรผล สรุป
แบ่งโครงสร้างแบบสอบถามออกเป็น 4 ตอนดังนี้ ได้แก่
-แบบสอบถามตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ใช้แบบสอบถามชนิดเลือกตอบ
-แบบสอบถามตอนที่ 2 สอบถามระดับความพึงพอใจในการทำงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของทรัพยากรมนุษย์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ใช้แบบสอบถามชนิดให้ความเห็น (Likert’s Scale)
-แบบสอบถามตอนที่ 3 สอบถามปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในการทำงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุข จังหวัดพะเยา ใช้แบบสอบถามชนิดให้ความเห็นปลายเปิดให้เขียนข้อความลงในแบบสอบถาม
-แบบสอบถามตอนที่ 4 สอบถามความคิดเห็นจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ในการพัฒนาบุคลากรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ใช้แบบสอบถามชนิดให้ความเห็น (Likert’s Scale)และแบบสอบถามชนิดให้ความเห็นปลายเปิดให้เขียนข้อความลงในแบบสอบถาม
และสรุปผลด้านต่างๆ ดังนี้
1.)ปัจจัยด้านสุขภาวะแนวพุทธ หมายถึง สุขภาพที่สมบูรณ์ ทั้งทางกาย ทางอารมณ์ และจิตวิญญาณ ภายในกาย ของมนุษย์ สังคมและมีปัญญาในภาวะที่เป็นสุขตามแนวพระพุทธศาสนา
( เอกสารสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ จากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. 2552 )ได้แก่
- ความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ -สิ่งแวดล้อม การเห็นคุณค่า ไม่เบียดเบียน การเสพ ใช้สอยการบริโภค เพื่อการพัฒนาสร้างสรรค์ ใช้สติโดยไม่ลุ่มหลงมัวเมา เอาใจใส่การดูแลสุขภาพร่างกาย ที่เกื้อหนุนชีวิตที่ดีงาม
- พฤติกรรมและความสัมพันธ์กับผู้อื่น สังคม -ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สงเคราะห์เกื้อกูล สื่อสารสร้างสรรค์ ประกอบอาชีพเลี้ยงตนและบุคคลที่เกี่ยวข้องให้มีความสุข การแก้ไขปัญหาชีวิต เคารพรักษา กฎ กติกา ระเบียบ จรรยาบรรณ วินัย การดำรงชีวิต สามัคคีในการอยู่ร่วมกัน
- การพัฒนาตนเองด้านคุณธรรมจริยธรรม -ศ รัทธาเชื่อมั่น ในการทำคุณความดี เคารพ อ่อนน้อม สุภาพอ่อนโยน กตัญญูกตเวทิตา มีสมรรถภาพทางจิต ร่าเริง เบิกบานสดชื่น อดทน รับผิดชอบ สุขจากความสงบ จิตใจเป็นอิสระ ไม่เอาทุกข์ทับถม ไม่ละทิ้งสุขอันชอบธรรม พัฒนาความสุขที่ประณีต
- การพัฒนาปัญญาและความสุขในชีวิต - ปัญญาภาวนา การปฏิบัติต่อความรู้ รู้ในการงานที่เป้นหน้าที่ของตน การแสวงหาความรู้เพิ่มเติม พัมนาตนเอง การเอาความรุ้มาใช้ได้ คิดเป็น แก้ปัญหาเป็น หยั่งรู้ในความเป้นจริงของชีวิต และรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต และกิจการงานทั้งหลาย ด้วยการมอง ตามเหตุและปัจจัย รู้แจ้งถึงความจริงที่จิตใจหลุดพ้นเป็นอิสระ
2.จัดกระบวนการสร้างความสุขและความพึงพอใจ ในหน่วยงานด้านการพัฒนาคุณธรรม การมีส่วนร่วมในงานต่างๆชองหน่วยงาน
4.10 หลักฐาน ข้อมูล หรือเอกสารอ้างอิงที่แสดงว่าการวิจัยนี้น่าจะมีความปลอดภัยและ/หรือมีประโยชน์ต่อผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัคร/สังคม
5. แผนการดำเนินการ (Outline of the Study) และผลที่คาดว่าจะได้รับในแต่ละช่วงระยะเวลา
นำผลการศึกษามาพัฒนาบุคลากรในองค์กรโดยได้รูปแบบกิจกรรม กระบวนการ ที่เหมาะสมมาใช้ใน การพัฒนาและการวางแผน ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจในการทำงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคคลากรสาธารณสุข สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา การสำรวจเบื้องตันในปี 2556ด้านความพึงพอใจในงาน ความสุข และคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุข ในจังหวัดพะเยาปัจจัยที่มีอิทธิพลในการบริหาร ในสังกัดสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดพะเยา จำนวน 62 คน เป็นชาย14 คนร้อยละ22.59เป็นหญิง48คนร้อยละ77.41 โดยใช้แบบสอบถาม ซึ่งได้สรุปผลดังนี้คือ
1.)ความพึงพอใจในด้านการงาน ด้านการบริหารองค์กร
มีคะแนนเฉลี่ย 3.24( ระดับมาก) ซึ่งส่วนใหญ่มีความพึงพอใจที่มีต่อสัมพันธภาพกับบุคลากรในหน่วยงานและการได้รับการยอมรับจากผู้ร่วมงานมีคะแนน 3.53 รองลงมามีความพึงพอใจที่มีต่อการสนับสนุนของผู้บังคับบัญชา ให้มีความก้าวหน้าในงานที่ท่านทำอยู่ในปัจจุบันและความพึงพอใจที่ท่านได้ ทำงานอย่างเต็มความรู้ความสามารถในความรับผิดชอบของท่านในหน่วยงานนี้ 3.46คะแนนความพึงพอใจที่มีต่อนโยบาย/มาตรการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับบุคลากรของหน่วยงานและ.ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดสภาพแวดล้อมการทำงานของหน่วยงานที่เอื้อต่อการทำงานการส่งเสริมอาชีวอนามัยสุขภาพ และความปลอดภัยมีคะแนน 2.93ระดับปานกลาง
2.)ความสุขและคุณภาพชีวิต กับการพัฒนาตนเอง มีคะแนนเฉลี่ย 3.38 (ระดับมาก)
ส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่ามีความสุขกับการได้เลี้ยงดูและให้ความช่วยเหลือบุคคลในครอบครัวให้มี
ความเป็นอยู่ที่ดีมีคะแนน 3.8 รองลงมามีความรู้สึกว่ามีความสุขกับการได้พักผ่อนกับครอบครัว ในวันหยุดงาน 3.73 และมีความรู้สึกว่ามีความสุขกับการได้ช่วยเหลือผู้อื่นสงเคราะห์เกื้อกูล ด้านเวลาและทรัพย์สินโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน. และคิดว่ามีความละอาย ต่อการเบียดเบียน ความเห็นแก่ตัว การสร้างความเดือดร้อน ให้กับตนเองและผู้อื่น มีคะแนน 3.66 ส่วนคะแนนที่มีระดับน้อยมีความรู้สึกมีความสุขกับการได้ทำงานในตำแหน่งและหน้าที่ของท่านที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้ มีคะแนน 2.8 และ คิดว่าการมีเงินมาก ร่ำรวยในทรัพย์สินทำให้มีความสุขในชีวิต มีคะแนน 2.93
3.)ความคิดเห็นต่อการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของจังหวัดพะเยา
มีคะแนนเฉลี่ย1.85(ระดับปานกลาง) คะแนนระดับมากได้แก่การที่บุคลากรในหน่วยงานมีความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อ หน้าที่ ความรับผิดชอบต่อหน่วยงานและบุคลากรในหน่วยงานมีการรักษาผลประโยชน์ทรัพย์สินของส่วนรวมมีคะแนน 2.06 รองลงมา บุคลากรในหน่วยงานได้รับโอกาสให้ได้พักผ่อน มีเวลาส่วนตัวและวันลาที่เหมาะสมตามความต้องการและบุคลากรได้รับการส่งเสริมให้โอกาสให้ได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามศักยภาพอย่างเต็มความสามารถและความถนัดมีคะแนน 1.93คะแนนระดับน้อยคือการที่หน่วยงานมีการส่งเสริมบุคลากร และให้โอกาสการพัฒนา ศักยภาพ ความรู้ และการศึกษาต่อเนื่องและการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกันของบุคคลต่างๆ ในที่ทำงาน มีคะแนน 1.73
ส่วนความคิดเห็นด้านอื่นๆซึ่งเป็นปัจจัยที่เป็นข้อพิจารณาในการนำมาเป็นแนวทางการบริหาร
งานบุคคลได้แก่ด้านการงานที่มีผลต่อความพึงพอใจความสุขและคุณภาพชีวิตคือความภาคภูมิใจในตัวเองที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถนาการปฏิบัติงานของบุคคลากรการสนับสนุนของผู้บังคับบัญชาและสัมพันธ์ภาพกับบุคลากรในหน่วยงานด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีผลต่อความพึงพอใจ ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากร คือได้ดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัวความสัมพันธ์ในครอบครัวอบอุ่นและการมีเงินพอใช้ในครอบครัวตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงด้านสัมพันธภาพกับผู้อื่น และสังคมคือ การพูดคุยสื่อสารกับผู้ร่วมงานได้อย่างเข้าใจ การได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนร่วมงาน การได้ช่วยเหลือผู้อื่นในสังคมในยามที่มีโอกาส และ เป็นที่ยอมรับของคนในองค์กร การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเท่าที่พอจะช่วยได้การมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมและทำความดี ด้านที่เกี่ยวกับตัวตน ของตนเอง คือการมีครอบครัวที่อบอุ่นมีบ้านเป็นของตนเอง การได้ดูแลบิดา มารดาตอนชราภาพ ได้ทำงานประสบผลสำเร็จมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและมีโอกาสพัฒนาความรู้ของตนเองด้านกิจกรรมต้องการให้หน่วยงานจัดให้ ซึ่งกิจกรรมนั้นทำให้เกิดแรงจูงใจ การสร้างความรัก ความสามัคคีในที่ทำงาน คือการจัดประชุม การพัฒนาองค์กร อบรมคุณธรรม จริยธรรม ของราชการ จรรยาบรรณวิชาชีพ การจัดกิจกรรมนันทนาการในหน่วยงานพิจารณาความดีความชอบที่เป็นธรรมได้รับการดูแลด้านขวัญกำลังใจอย่างเหมาะสม และอื่นๆ ซึ่งมีความแตกต่างตามสถานะความต้องการของบุคคล ผลการสำรวจครั้งนี้นำไปเป็นแนวทางการพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานและนโยบาย
6. ผลที่คาดว่าจะได้รับเมื่อการดำเนินงานเสร็จสิ้นที่เป็นรูปธรรมและตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ
1.ปรับระบบการทำงานโดยจัดโอกาสให้ทำงานร่วมกันเป็นทีมคละกันระหว่างกลุ่มงาน
2.สร้างทีมงานระหว่างกลุ่มงานโดยไม่เอางานเป็นตัววัด
จิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์ร่วมกัน
3.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในองค์กร
7 แผนการนำผลงานดังกล่าวออกสู่การใช้ประโยชน์ (Implementation)
การมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ทุกสาขาวิชาชีพเมื่ออยู่ในองค์กรเดียวกันก็มีส่วนร่วม ร่วมแรง ร่วมใจ ที่ทำงานเป็นเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
-ผู้บริหารให้การสนับสนุน ลดระยะห่าง คนสำราญ งานสำเร็0 งานสำเร็จ คนเป็นสุข
-ได้เสนอผลการศึกษาแลกเปลี่ยนในการเสนอผลงานการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมหน่วยงานสาธารณสุข
8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
8.1 ประโยชน์ต่อผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครเป็นรายบุคคล
8.2 ประโยชน์ต่อวิชาชีพโดยรวม
8.4 อื่นๆ
ความก้าวหน้าในการดำเนินการวิจัย/ปัญหาหรืออุปสรรคระหว่างทำวิจัย
จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคี กีฬา ชมรมตามความชอบ ได้แก่ดนตรี ออกกำลัง วาดรูป การร่วมกิจกรรมตามประเภณีในท้องถิ่น การรับประทานอาหารร่วมกัน การศึกษาดูงาน การอบรมการพัฒนาจิตแนวพระพุทธศาสนา อื่นๆ
อัพเดทความเคลื่อนไหว
เป็นการพัฒนางานประจำสู่การวิจัยพัฒนาต่อเนื่องด้านการพัฒนาบุคลากร (R 2 R )
(ผลการศึกษาพัฒนาต่อเนื่องตั้งแต่ปี ปี 2555-2557 )
สรุปแนวคิดการดำเนินงานเบื้องต้น ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยและกิจกรรม กระบวนการ ที่มีผลต่อพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตบุคลากรสาธารณสุข ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยาที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิต ที่มีผลการบริหารและพัฒนาบุคลากร ของบุคลากรสาธารณสุขในจังหวัดพะเยาจากการสำรวจความพึงพอใจในงานให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนบุคคลกร สาธารณสุข ในจังหวัดพะเยา ในใน5 ปีที่ผ่านมา ปี พ.ศ.2555 พบว่า มีความพึงพอใจในงานและ ความสุขร้อยละ 78 , 78.89 ,77.85 และ80.02ตามลำดับ และผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านความพึงพอใจ ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ปี 2556 พบว่าระดับความพึงพอใจต่อความสำเร็จการบริหารงานบุคลากรสาธารณสุข ร้อยละ 68.55 มีความสุขในงานและคุณภาพชีวิต ร้อยละ 73.18 เพื่อการบริหารและพัฒนาบุคลากรโดยจัดให้มีแนวทางในการวางแผนการจัดกิจกรรม ต่างๆให้เหมาะสมสอดคล้องกับความพึงพอใจ ความสุข และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ทั้งนี้ผลที่ได้จากการศึกษาจะนำไปปรับปรุง พัฒนากิจกรรม แผนงาน/โครงการ พัฒนาศักยภาพ สมรรถนะ กิจกรรมพัฒนาด้านสุขภาวะแนวพุทธ และสถานที่ทำงานที่มีความสุข ( Happy workplace )ส่วนตัวแปรตาม คือ กิจกรรม กระบวนการใดบ้างที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยา
เป้าหมาย/ขอบเขตการศึกษา
บุคลากรสาธารณสุขในสังกัดสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดพะเยา ได้แก่ โรงพยาบาลทั่วไป 2 แห่ง / โรงพยาบาลชุมชน 5 แห่ง /โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 94 แห่ง/สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 9 แห่ง ประกอบด้วยผู้บริหาร และ ผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการด้านเทคนิคอื่นๆ และผู้สนับสนุนในสายงานบริหาร การเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยการสุ่มแบบเจาะจงในกลุ่มสถานบริการโรงพยาบาลทุกแห่ง และเลือกสุ่มตัวอย่างแบบ Randomization แบบตัวเลขสุ่มอย่างง่าย จับฉลากจาก บุคคลกรสาธารณสุขในสถานบริการพื้นที่จังหวัดพะเยา และ เลือกกรณีศึกษาในการพัฒนากิจกรรมในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยาและประเมินผลการดำเนินงาน
วิธีการศึกษา ศึกษาโดยใช้ รูปแบบกึ่งทดลอง ( Quasi Experiment )โดยการสำรวจความคิดเห็นจากเครื่องมือที่สร้างขึ้นเป็น แบบสอบถาม ลิเคริ์ทสเกล (Likert’s Scale)ที่พัฒนาประยุกต์ จากแนวคิดความพึงพอใจ และสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ จากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และ การจัดกิจกรรม กระบวนการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ตามแผนงานโครงการและกิจกรรมต่างที่จัดให้กับบุคลากร โดยวัดผลจากความคิดเห็นจากการตอบแบบสอบถามก่อนและหลังและเชิงคุณภาพจากการวิเคราะห์เนื้อหาจากความคิดเห็น
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
นำผลการศึกษามาพัฒนาบุคลากรในองค์กรโดยได้รูปแบบกิจกรรม กระบวนการ ที่เหมาะสมมาใช้ใน การพัฒนาและการวางแผน ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจในงาน ความสุขและคุณภาพชีวิตของบุคคลากรสาธารณสุขจังหวัดพะเยาอย่างต่อเนื่องต่อไป ( อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง )
อัลบั้มภาพ
วิดีโอ
- อ่าน 11279 คน
- พิมพ์หน้านี้
ความคิดเห็น
กระบวนการที่เกิดขึ้น ระหว่างดำเนินกิจกรรม เป็นสิ่งที่ดี ขออนุญาตนำไปประยุกต์ใช้ต่อในหน่วยงานนะครับ
อยากนำแนวงานนี้มาทำกับ จนท โรงพยาบาลชุมชนบ้าง เพราะ% ความพึงพอใจ< 50 % จะมาปรับใช้กับ รพช.ได้ไหมคะ เป็น 2R2 ไหม
แสดงความคิดเห็น